สด บอล ยู 23
ทั้งนี้คาดว่าในปีนี้ รายได้จากเส้นทางในประเทศกับเส้นทางต่างประเทศ เปลี่ยนสัดส่วนเป็น 50:50 จากปีก่อนมีสัดส่วน 90:10 สอดคล้องปริมาณการผลิตด้านผู้โดยสาร (Available Seat-Kilometer: ASK) ขยับสัดส่วนเส้นทางในประเทศกับต่างประเทศ เป็น 50:50 จากปีก่อน 70:30 บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ (22 ม.ค.) ว่าวันนี้ SET จะเปิดลอยขึ้นมาในแดนบวก สลับมีแรงขายทำกำไร และสุดท้ายน่าจะปิดในแดนบวก จากแรงหนุนของดัชนีในภูมิภาคและแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มพลังงานและ ธนาคารพาณิชย์ โดยวันนี้มองแนวรับที่ 1,240-1,236 จุด แนวต้านที่ 1,258-1,264 จุดS/5.80สำหรับงบลงทุนปีนี้ตั้งงบไว้ทั้งสิ้น 1.4 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วยงบสำหรับการซื้อที่ดิน 7 พันล้านบาท และงบลงทุนด้านพัฒนาหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ เพื่อขายให้เช่าอีก 7 พันล้านบาท โดยงบซื้อที่ดินจะเน้นในทำเลกรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต,ทั้งนี้ หากมีเงินเพิ่มทุนคงเหลือก็จะนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไปในการดำเนินธุรกิจของบริษัทต่อไปอนึึ่งก่อนหน้านี้ ปัจจัยที่ส่งผลให้ราคาหุ้น TSI มีการปรับตัวขึ้นแรง คาดว่ามาข่าวว่าบริืษัทจะถูก takeover ซึ่งคาดว่ามีกลุ่มทุนเข้ามาทำการเจรจาแล้ว โดยคาดว่าบริษัทจะประกาศโครงสร้างใหม่เร็วๆ นี้
ขณะที่ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่มีน้ำหนักจะผลักดันให้ภาพรวมตลาดมีทิศทางชัดเจนมากนัก โดยยังเป็นลักษณะของ sideway เมื่อดัชนีดีดตัวขึ้นไปแรงก็จะมีแรงขายออกมา และเมื่อดัชนีปรับลดลงมาระดับหนึ่งก็จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาเช่นกันซึ่งเป็นไปได้ไม่น้อยที่อาจจะร่วมทุนถือหุ้นกัน เพราะ TCC ตอนนี้งบการเงินสะอาด หนี้สินน้อย ทุนไม่สูง เอวบางร่างน้อย การหาคู่จึงทำได้ง่าย และเมื่อมีพื้นฐานของถ่านหินอยู่แล้วการบุกไปทำพลังงานจึงไม่ไกลตัว แค่ไป takeover โรงไฟฟาชีวมวลมาก็ทำให้พื้นฐานเปลี่ยนไปแล้ว เข้าใจว่าตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงทีมบริหารเมื่อปีก่อน ได้มีการเจรจากันพอสมควรกับกลุ่มทุน หรือกลุ่มธุรกิจใหม่ ,ส่วนแนวโน้มวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.) มองว่าดัชนีจะยังเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับวันนี้ และอาจสวิงแรงระหว่างวัน โดยหากตลาดเช้าเปิดบวก ช่วงบ่ายอาจพลิกเป็นลบ หรือหากตลาดเช้าเปิดลบ ช่วงบ่ายมีโอกาสพลิกเป็นบวก แต่โดยรวมคาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบ 1,237-1,260 จุด แนะติดตามผลประชุม ECB, ตัวเลขเศรษฐกิจต่างประเทศ รวมทิศทางค่าเงินหยวน หากอ่อนค่าก็อาจทำให้เงินบาทอ่อนค่าตามไปด้วย ซึ่งจะหนุนให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นออกมาได้ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นหลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธาน ECB เปิดเผยในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า ECB จะทำการทบทวนนโยบายการเงินในการประชุมครั้งหน้าในเดือนมี.ค. โดยถ้อยแถลงของนายดรากีเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB อาจผ่อนคลายนโยบายมากขึ้น และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนมี.ค. ส่วนในการประชุมครั้งล่าสุดเมื่อวานนี้ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไว้ที่ระดับ 0.05% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ตามความคาดหมายของตลาด ขณะเดียวกัน ECB ได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับ ECB ที่ -0.3%ยังคงแนะนำ Selective Buy หุ้นตามธีม และปัจจัยรองรับแข็งแกร่ง เนื่องจาก valuation ในปัจจุบัน ความเสี่ยงค่อนข้างจำกัด เช่นทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าผลประกอบการในปีนี้จะดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 150% หลังจากที่ทยอยรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าชีวมวลจำนวน 2 แห่ง ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) และโรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) ที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าได้เรียบร้อยแล้ว
กระทรวงพาณิชย์จีนคาดกว่า การปฏิรูปภาวะอุปทานจะกระตุ้นการบริโภคของจีนในภาคต่างๆ อาทิ โซลูชั่นพลังงานอัจฉริยะ บริการ และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมขณะที่ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงมาก ไทยสมายล์ไม่ได้รับประโยชน์เต็มที่ เพราะราคาน้ำมันอากาศยานผันผวน โดยต้นปี 58 ราคาอยู่ที่ 80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปรับตัวลงมา 50% และขณะนี้ราคาเคลื่อนไหวที่ 36-37 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล สำหรับช่องทางบริการบัวหลวง เอ็มแบงก์กิ้ง ผ่านแอพพลิเคชั่น และช่องทางอื่นๆ ของธนาคาร เช่น บัวหลวงเอทีเอ็ม ยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ,อย่างไรก็ตาม Top pick: Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มพลังงานทดแทน ซึ่งจะทำให้โครงการพลังงานทดแทนสามารถอนุมัติและเริ่มก่อสร้างได้รวดเร็วขึ้น จากการแก้ปัญหาผังเมืองรวม โดยกลุ่มที่ได้ประโยชน์ที่สุดจากการเน้นย้ำในการประกาศครั้งนี้ คือ ส่วนแนวโน้มฐานเงินฝากธุรกรรมทางการเงินจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะธนาคารได้มีการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆเพื่อจูงใจลูกค้า ส่งผลให้ธนาคารสามารถบริหารต้นทุนทางการเงินได้ดี ธนาคารจึงคาดว่าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) มีแนวโน้มสูงขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3-3.3% จากปีก่อนอยู่ที่ 3% ภาวะปัจจัยแวดล้อมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2559 มีทั้งปัจจัยหนุนและความเสี่ยงควบคู่กันไป โดยในด้านของการซื้อขายที่อยู่อาศัยน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากแรงหนุนของมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งคาดว่าจะทำให้เห็นการโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2558 เร่งตัวขึ้น และในช่วงท้ายของปี 2559 บรรยากาศตลาดน่าจะกลับดีขึ้นอีกครั้งในกลุ่มที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงด้านการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยังเป็นปัจจัยฉุดรั้งการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของประชาชน เอกสารเผยแพร่ ระบุ
(บรรณาธิการ:admin )
ความคิดเห็นล่าสุด